งานวิจัยและบทความ

พิธีฮัจญ์แรกของชาวมุสลิมเอเชียอาคเนย์: หลักฐานจากเอกสารอาหรับศตวรรษที่ 12 เรื่อง "กิตาบ เฏาะบาอิ อัลฮะยะวาน" (ตำราธรรมชาติสัตว์) ของ ชะร็อฟ อัซซะมาน ฏอฮิร อัลมัรวะซีย์

โดย สุนิติ จุฑามาศ

เผยแพร่เมื่อ 6 มิถุนายน 2024

โบราณคดี, ประวัติศาสตร์, มรดกวัฒนธรรมมุสลิม
แหล่งจัดเก็บทรัพยากรต้นฉบับ

วารสารมานุษยวิทยา, ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 (2023)


การประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครมักกะฮ์อันศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นหนึ่งในความปรารถนาสูงสุดของชาวมุสลิมทั่วโลก อย่างไรก็ดี ผู้จาริกแสวงบุญชาวมุสลิมสมัยโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มีอาศัยอยู่ในดินแดนห่างไกลอย่างเอเชียอาคเนย์ ซึ่งจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเดินทางข้ามมหาสมุทรอินเดียอันกว้างใหญ่ไพศาล จากบันทึกตอนหนึ่งจากตำรา กิตาบ เฏาะบาอิ อัลฮะยะวาน (ตำราธรรมชาติสัตว์) ประพันธ์โดย ชะร็อฟ อัซซะมาน ฏอฮิร อัลมัรวะซีย์ แพทย์และปราชญ์ชาวมุสลิมเปอร์เซียในศตวรรษที่ 12 ระบุว่ามี “กลุ่มคนจากตะวันออก” ซึ่งเพิ่งหันมานับถือศาสนาอิสลาม เดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์ใน ฮ.ศ. 434 (ค.ศ. 1043) โดยคำบอกเล่าเกี่ยวกับลักษณะทางภูมิศาสตร์และลักษณะของชนพื้นเมืองในบันทึกดังกล่าว สอดคล้องกับบริบทของหมู่เกาะในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ บริเวณดินแดนตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ซึ่งถือได้ว่าบันทึกนี้อาจเป็นหลักฐานที่อ้างถึงการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวมุสลิมเอเชียอาคเนย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเอกสารอาหรับ งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปริวรรตเนื้อหาส่วนดังกล่าวจากต้นฉบับภาษาอาหรับ แปลความเป็นภาษาไทย และศึกษาวิเคราะห์ในมุมมองด้านภาษาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ทั้งนี้ ผลการศึกษาพบว่า บันทึกฉบับนี้อ้างถึงเหตุการณ์การพบกลุ่มผู้แสวงบุญชาวมุสลิมที่เดินทางมาจากดินแดนที่รู้จักในนาม “ลามูรีย์” และ “ฟันศูร” ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ซึ่งทั้งสองแห่งมีเมืองท่าสำคัญที่ติดต่อค้าขายกับพ่อค้านักเดินเรือชาวมุสลิมมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 8 เป็นต้นมา จึงสะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการอิสลามานุวัตรในดินแดนเอเชียอาคเนย์เกี่ยวโยงกับการค้าทางทะเลของชาวมุสลิมอย่างมีนัยสำคัญและได้รับการบันทึกไว้ในเอกสารอาหรับ ก่อนหน้าบันทึกของชาวยุโรปและวรรณกรรมมลายูสมัยคลาสสิค ซึ่งเพิ่งมีการกล่าวถึงรัฐอิสลามบนเกาะสุมาตราในช่วงปลายศตวรรษที่ 13